จริง ๆ แล้วผมก็เคยเขียนรีวิวการ์ตูนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ตอนที่เขียนครั้งนั้นเป็นฉบับของการอ่านมังงะ (และช่วงนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ยังเดินเรื่องไปไม่ไกลเท่าไหร่) ซึ่งยอมรับว่าตอนนั้นไม่ค่อยชอบการ์ตูนเรื่องนี้ในหลาย ๆ ปัจจัยไม่ว่าจะการเล่าเรื่องที่เอื่อย ๆ ในช่วงแรก หรือการที่การ์ตูนเรื่องนี้มันแฝงสาระไว้เยอะจัดจนทำให้ตัวหนังสือที่ต้องอ่านมันเยอะมากตามมา สายชอบเสพภาพแบบผมจึงปัดเรื่องนี้ตกไปและให้คะแนนไม่เยอะเท่าไหร่ในฉบับ Manga แต่หลังจากที่เพิ่งดูการ์ตูนเรื่อง “DR STONE” ฉบับอนิเมะบน Netflix จบ ผมถึงกับต้องขอมารีวิวอีกครั้งในเวอร์ชันนี้ ซึ่งมันดีงามมากและสามารถตัดข้อเสียที่ผมเจอในมังงะหายไปหมดเลย
เซ็นคู – เด็กหนุ่มบ้าวิทยาศาสตร์ ต้องการจะกอบกู้โลกยุคหินให้กลับมาเป็นเหมือนเก่าอีกครั้งด้วยพลังวิทยาศาสตร์ที่เค้ามี
ยูสึริฮะ – หญิงสาวที่ไทจุหลงรักจนหมดหัวใจ ทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมห้องของทั้งเซ็นคูและไทจุ
สึคาสะ – เด็ก ม.ปลายที่แข็งแกร่งที่่สุด ชายผู้ที่ต้องการสร้างสังคมที่มีแต่เด็กโดยไร้ซึ่งผู้ใหญ่ชั่วช้าและเห็นแก่ตัว
โครม – เป็นมนุษย์ที่เกิดมาในช่วงยุคหิน เป็นเด็กขี้สงสัยชอบสำรวจและหลงไหลในวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ
โคฮาคุ – ลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านในยุคหิน และมีทักษะในการต่อสู้ที่น่าทึ่ง เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน
เรื่องย่อ
เนื้อหาหลังจากนี้ต่อไปอาจจะมีการ สปอยล์ หากใครยังไม่ได้ดูหรือกำลังหลีกเลี่ยงสปอยล์ก็ขอให้ข้ามไปนะครับผม
วันนึงอยู่ ๆ โลกก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นเมื่อแสงสีเขียวที่ไม่มีใครทราบถึงที่มาได้แพร่กระจายปกคลุมไปทั่วทั้งโลก ทำให้มนุษย์และนกนางแอ่นกลายเป็นหิน จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปถึง 3700 ปี ไทจุ เด็กหนุ่มซื่อ ๆ ที่หัวสมองมีแต่มัดกล้าม เค้าตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะสารภาพรักกับ ยูสึริฮะ ให้ได้ และด้วยเป้าหมายของเค้านั่นเองจึงทำให้เค้าฟื้นคืนชีพหลุดออกมาจากการเป็นหินได้ โดยผ่านการช่วยเหลือของ เซ็นคู เพื่อนร่วมห้องของเค้าชายผู้บ้าวิทยาศาสตร์เข้าเส้น หลังจากที่หลุดพ้นจากการเป็นหินมาได้ ทั้ง 2 คนจึงตัดสินใจที่จะเริ่มแผนการช่วยเหลือมนุษย์ทั่วโลกจนคิดค้นยาวิเศษที่สามารถรักษาคนที่กลายเป็นหินได้ และสามารถช่วยเหลือ ยูสึริฮะ หญิงสาวที่ไทจุชอบได้สำเร็จ
แต่ทว่าวันนึงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อจู่ ๆ เค้าได้เจอฝูงสิงโตไล่เขมือบจนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฟื้นคืนชีพให้ สึคาสะ เด็ก ม ปลายที่แข็งแกร่งที่สุดจึงทำให้เค้ารอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ แต่เหมือนหนีเสือปะจรเข้เมื่อจู่ ๆ สึคาสะ เกิดความคิดที่สุดโต่งขึ้นมา และไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ เซ็นคู ที่ต้องการจะช่วยทุกคน แต่ สึคาสะ อยากให้ฆ่าผู้ใหญ่ทิ้งให้หมดเหลือไว้เพียงแค่เด็กและห้ามไม่ให้เซ็นคูสร้างสิ่งที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในอำนาจที่เคยเกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่เซ็นคู ไม่เห็นด้วยจึงต้องหลบหนี สึคาสะ โดยการแกล้งตายเพื่อแอบไปก่อตั้งอาณาจักรวิทยาศาสตร์ของตัวเอง และให้ ไทจุ กับ ยูสึริฮะ เข้าร่วมกับสึคาสะเพื่อเป็นสปาย
และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของสงครามยุคหินครั้งแรกของ 2 ผู้นำที่มีความคิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่แล้วเซ็นคูก็ได้ไปพบกับหมู่บ้านแห่งนึงเข้า ซึ่งเป็นหมู่บ้านเพียงแห่งเดียวที่ไม่ได้สร้างมาจากคนในยุคของเค้า คนในหมู่บ้านนี้คือไร้ซึ่งวิทยาศาสตร์ เป็นมนุษย์ที่เติบโตมาในยุคหินอย่างแท้จริง จึงทำให้เซ็นคูเพ่งเล็งและคิดจะทำให้คนในหมู่บ้านนี้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของอาณาจักรวิทยาศาสตร์ของตัวเองซะเลย!!
รีวิวความรู้สึกหลังดูจบ
เปิดเรื่องได้ดี พล็อตเรื่องอย่างเจ๋ง ตัวละคะครคาแรกเตอร์ทุกตัวโดดเด่นและจำง่ายมาก
จุดสำคัญของการเดินเรื่องไม่ว่าจะเป็น หนัง ซีรีส์ หรือว่า อนิเมะ คงหนีไม่พ้นการเปิดเรื่องยังไงให้คนดูเกิดความสนใจตั้งแต่เริ่มแรก เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่หากเปิดเรื่องแล้วไม่น่าติดตามคนดูจะเทไม่ดูต่อแม้ช่วงท้ายเรื่องจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับเรื่อง Dr Stone ถือว่าตอบโจทย์และทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม การ์ตูนได้สร้างปมใหญ่ที่ชวนสงสัยแต่แต่ 10 นาทีแรกที่ได้ดู นั่นจึงทำให้คนดูอยากจะติดตามต่อและอยากร่วมไขปริศนาที่ค้างคาใจเหล่านี้ อย่างเหตุผลที่ทำให้คนทั้งโลกกลายเป็นหิน นอกจากนี้การเดินเรื่องก็จะคอยทิ้งปมและสร้างคอนเทนต์ใหม่ตลอดเวลา เพื่อเกิดความอยากรู้อยากเห็นในแง่ของวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่านตัวละคร เซ็นคู
ในแง่ของคาแรกเตอร์ก็ทำออกมาได้โดดเด่นและชัดเจนทุกตัวละครไม่เว้นแม้แต่ตัวประกอบฉากที่โผล่มาแว่บ ๆ ก็ตาม ทุกตัวละครมีนิสัยเฉพาะเป็นของตัวเอง และแต่ละคนก็มีเป้าหมายในการกระทำที่มีสตอรี่ที่หนักแน่นพอที่จะทำให้เราเชื่อว่าทำไมตัวละครนั้นถึงทำอะไรแบบนี้ อย่างเช่น เซ็นคู ผู้ที่บ้าวิทยาศาสตร์มาก เค้าสงสัยทุกสิ่งทุกอย่าง และมีเหตุผลที่ต้องการฟื้นฟูโลกยุคหินอย่างชัดเจน หรือ สึคาสะ ที่เหมือนจะมีอดีตอันเลวร้ายกับผู้ใหญ่ในยุคเก่าจึงต้องการกวาดล้างผู้ใหญ่ทั้งหมดให้หายไป ไทจุ ชายซื่อ ๆ ผู้ทำอะไรทุกอย่างแบบจริงจัง เค้าประคองสติตัวเองไว้เพื่อจะสารภาพรักกับหญิงที่ชอบจนสามารถหลุดจากหินมาได้ เป็นต้น และที่สำคัญเคมีเวลาตัวละครในเรื่องนี้อยู่ด้วยกันมันช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน
เล่าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจยาก กลายเป็นเรื่องง่ายอย่างชาญฉลาด
แม้ตัวมังงะจะมีข้อด้อยเรื่องการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าเบื่อเพราะมันจะมีตัวหนังสือที่เราไม่รู้จักเต็มไปหมด จนคนดูบางส่วนขี้เกียจอ่านและเทไปในที่สุด (รวมถึงผมด้วย) แต่สำหรับอนิเมะแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ตัวการ์ตูนมีการรวบลัดคำพูดให้กระชับยิ่งขึ้น ทั้งยังเสริมการอธิบายผ่านภาพประกอบที่แสดงออกมาเป็นสัญลักษณ์ที่สุดครีเอตและสร้างภาพจำให้กับคนดู อย่างเช่นตอนอธิบายถึงแร่ที่ทนความร้อนได้สูง ภาพประกอบจะเป็นก็อตซิลล่ากำลังพ่นไฟ เป็นต้น
ทั้งยังมีการนำตัวละครที่อยู่ในยุคหินและไม่รู้จักวิทยาศาสตร์มาเป็นเสมือนตัวแทนคนดู ที่ถ้าหากเราไม่เข้าใจอะไรในเรื่องนี้ ตัวละครเหล่านี้ก็จะถามคำถามเหล่านั้นแทนเราเสมอ ถือว่านี่เป็นการ์ตูนที่มีสาระอัดแน่นแต่เล่าเรื่องได้แทบจะไม่งง และไม่มีความน่าเบื่อเลย
รู้สึกตื่นเต้นและชวนสงสัยเสมอ แม้สิ่งเหล่านั้นจะเป็นของง่าย ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปก็ตาม
ตัวเรื่องจะดำเนินไปเรื่อย ๆ ผ่านการวิวัฒนาการจากยุคหินเพื่อกลับไปสู่ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว อารมณ์จะเหมือนเล่นเกมสร้างฐานที่ต้องคอยอัปเกรดนู่นนี่นั่นเพื่อจะสร้างอะไรให้ได้หลากหลายยิ่งขึ้นในอนาคต อย่างเช่นต้องหาเปลือกหอยเพื่อมาทำสบู่ หาแร่นู่นนี่นั่นเพื่อมาทำเหล็ก สร้างเตาหลอม สร้างหลอดไฟ สร้างสบู่ และอื่น ๆ อีกมากมาย สิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือตัวละคร เซ็นคู จะเริ่มสร้างจากของพื้นฐานในการใช้ชีวิต แม้แต่การสร้างสบู่ยังน่าตื่นเต้นในการ์ตูนเรื่องนี้ หรือการได้เห็นหลอดไฟในยุคหินมันก็กลายเป็นเรื่องที่น่าประทับใจไปซะอย่างนั้น และเราก็จะรู้สึกอยากรู้ยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ว่าของชิ้นต่อไปที่ตัวละครนี้จะสร้างจะคืออะไร และมีวิธีการสร้างอย่างไร !?
แต่ในหลาย ๆ อย่างในการ์ตูนกลับให้ความรู้สึกที่เกินจริงเยอะไปหน่อย
ในการ์ตูนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จุดแข็งของมันคือการทดลองที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ๆ ในชีวิตเรา มันคือการมีพื้นฐานอยู่บนความเป็นจริงและไม่ได้มโนสูตรต่าง ๆ ทางเคมี หรือวิธีประดิษฐ์สิ่งของขึ้นมาเองเพื่อให้คนดูเกิดความเชื่อได้สูงที่สุด หรือให้เรียกสั้น ๆ ก็คือ ความเรียล นั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์และทำออกมาได้ดีมากในมุมมองของคำว่าวิทยาศาสตร์ แต่จุดที่ผมรู้สึกว่าเกินจริงไปเยอะเลยนั่นก็คือเหล่าบรรดาตัวละครที่เก่งกันเกินไปหน่อย โดยหลัก ๆ ตัวละครพวกนี้จะเป็นแค่เด็ก ม ปลายเท่านั้น แต่กลับมีคนที่แข็งแกร่งจนฆ่าสิงโตด้วยมือเปล่าได้ มีคนใช้ชำนาญการใช้หอกแบบสุด ๆ หรือมีคนที่กระโดดสูงยังกับบินได้ จนผมเริ่มสงสัยแล้วว่าไอ้เด็กประเทศนี้ทำไมมันเก่งกันจังฟะ !? (ฮา) แต่โดยรวมแล้วผมก็ไม่ได้ติดอะไรเลย เพราะเข้าใจว่ามันคือการเพิ่มสีสันในการเดินเรื่องเพื่อทำให้การ์ตูนดูสนุกขึ้นอ่ะนะ
งานภาพยังไม่ได้โดดเด่นนัก ทำได้แค่แตะมาตรฐานเท่านั้น
เมื่อพูดถึงงานภาพถ้าเทียบกับการ์ตูนที่สร้างมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ยังถือว่าทำได้แค่แตะมาตฐานของอนิเมะญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้มีดีเทลที่ละเอียดยิบ หรือมีเทคนิคแปลก ๆ ที่สร้างความโดดเด่นกว่าเรื่องอื่น ๆ สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่หรือขัดตาอะไรมากนัก ยังดูได้เพลิน ๆ
โดยรวมนี่ก็ถือว่าเป็นอีก 1 การ์ตูนทรงคุณค่าที่หากว่าคุณเป็นคออนิเมะอยู่แล้วบวกกับมีรหัส Netflix อยู่ในมือ ก็ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด การ์ตูนแฝงไปด้วยสาระ ความเดือด และมุกตลกมากมาย และเล่าเรื่องอย่างชาญฉลาดไม่น่าเบื่อ มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจและคาดว่าคงจะมีอีกหลาย Season ต่อไปให้ตามดูกันยาว ๆ และยิ่งหากคุณเป็นแฟนคลับผลงานของ อ.ริอิจิโร่ อินางากิ ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนกีฬาในตำนานอย่าง Eyeshield21 อยู่แล้วคุณจะรักเรื่องนี้ยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผมรู้สึกเห็นความเป็น ฮิรุม่า ในตัวของ เซ็นคู เยอะพอสมควร แนะนำ ดูเลย ไม่ผิดหวังแน่นอน!!